คอลลาเจนดีอย่างไร
ประโยชน์ ของคอลลาเจนมีมากมาย แต่ที่คนส่วนใหญ่รู้จักคือผลิตภัณฑ์ด้านความสวยความงามที่คอลลาเจนจะช่วยให้ ผิวพรรณเต่งตึงและกระชับขึ้น นอกจากนี้คอลลาเจนยังช่วยป้องกันการสูญเสียแคลเซียมอีกด้วย ดังนั้นหากร่างกายของเราได้รับคอลลาเจนในปริมาณที่เพียงพอแล้ว นอกจากผิวพรรณจะดีแล้วยังมีผลให้กระดูกแข็งแรงอีกด้วย
หลายคนที่ไม่ เคยใช้คอลลาเจนจะสงสัยว่าคอลลาเจนดีอย่างไร และทำไมคอลลาเจนกำลังเป็นที่นิยมกันในขณะนี้ ต้องทำความเข้าใจก่อนคะว่า โดยปกติร่างกายคนเราสามารถสร้างคอลลาเจนได้เอง แต่เมื่ออายุ 25ปีขึ้นไปอัตราการสร้างของคอลลาเจนลดลง ทำให้ร่างกายสูญเสียคอลลาเจน
คอลลาเจนนอกจากจะช่วยลดการสูญเสียแคลเซียมในกระดูกแล้ว ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคกระดูกพรุนแล้ว
ยังช่วยให้สุขภาพผิวแข็งแรง กระชับ มีความยืดหยุ่น ผิวพรรณเต่งตึง มีน้ำมีนวล
และยังช่วยในเรื่องของข้อต่อและเอ็น ให้มีความแข็งแรง
และที่สำคัญเลย สำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนักต้องฟังทางนี้คะ
คอลลาเจนยังเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นการเผาผลาญไขมันอีกด้วย ไม่ต้องฉีดคอลลาเจน ก็สวยได้ง่ายๆ
แนะนำให้ดื่มกับน้ำผลไม้ที่มีกรดวิตามินซี จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมคอลลาเจนได้ดียิ่งขึ้น
ผล ที่ได้รับจากการบริโภคคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง จะช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิวหนังลดริ้วรอยเหี่ยวย่นของผิวหนัง อย่างได้ผล และทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น นุ่มเนียนขึ้น
วิธีใช้
ใช้ คอลลาเจน ชงกับน้ำอุ่นหรือน้ำ ชา กาแฟ โยเกิร์ต
ประโยชน์ ของคอลลาเจนมีมากมาย แต่ที่คนส่วนใหญ่รู้จักคือผลิตภัณฑ์ด้านความสวยความงามที่คอลลาเจนจะช่วยให้ ผิวพรรณเต่งตึงและกระชับขึ้น นอกจากนี้คอลลาเจนยังช่วยป้องกันการสูญเสียแคลเซียมอีกด้วย ดังนั้นหากร่างกายของเราได้รับคอลลาเจนในปริมาณที่เพียงพอแล้ว นอกจากผิวพรรณจะดีแล้วยังมีผลให้กระดูกแข็งแรงอีกด้วย
หลายคนที่ไม่ เคยใช้คอลลาเจนจะสงสัยว่าคอลลาเจนดีอย่างไร และทำไมคอลลาเจนกำลังเป็นที่นิยมกันในขณะนี้ ต้องทำความเข้าใจก่อนคะว่า โดยปกติร่างกายคนเราสามารถสร้างคอลลาเจนได้เอง แต่เมื่ออายุ 25ปีขึ้นไปอัตราการสร้างของคอลลาเจนลดลง ทำให้ร่างกายสูญเสียคอลลาเจน
คอลลาเจนนอกจากจะช่วยลดการสูญเสียแคลเซียมในกระดูกแล้ว ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคกระดูกพรุนแล้ว
ยังช่วยให้สุขภาพผิวแข็งแรง กระชับ มีความยืดหยุ่น ผิวพรรณเต่งตึง มีน้ำมีนวล
และยังช่วยในเรื่องของข้อต่อและเอ็น ให้มีความแข็งแรง
และที่สำคัญเลย สำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนักต้องฟังทางนี้คะ
คอลลาเจนยังเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นการเผาผลาญไขมันอีกด้วย ไม่ต้องฉีดคอลลาเจน ก็สวยได้ง่ายๆ
แนะนำให้ดื่มกับน้ำผลไม้ที่มีกรดวิตามินซี จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมคอลลาเจนได้ดียิ่งขึ้น
ผล ที่ได้รับจากการบริโภคคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง จะช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิวหนังลดริ้วรอยเหี่ยวย่นของผิวหนัง อย่างได้ผล และทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น นุ่มเนียนขึ้น
วิธีใช้
ใช้ คอลลาเจน ชงกับน้ำอุ่นหรือน้ำ ชา กาแฟ โยเกิร์ต
คนญี่ปุ่นนำมาผสมกับอาหาร หรือ หุงข้าวเลย
ผลไม้ที่มีวิตามินซีจะช่วยในการดูดซึมคอลลาเจนได้ดียิ่งขึ้น หรือ
จะผสมกับน้ำเพียงเล็กน้อยหรือครีมบำรุงผิวทาหน้า นำมาพอกหน้า ทิ้งไว้สักพักแล้วค่อยล้างออก
**คอลลาเจนที่ผสมน้ำถ้าใช้ไม่หมด นำมาแช่ตู่เย็น เพราะไม่ได้ใส่สารกันเสีย**
คำเตือน
คนแพ้อาหารทะเล ไม่ควรรับประทานคะ เพราะ สกัดจากปลาทะเลน้ำลึก
แต่เรามี collagen Peptide cow (ถุงสีน้ำเงิน) สามารถทานได้ค่ะผลไม้ที่มีวิตามินซีจะช่วยในการดูดซึมคอลลาเจนได้ดียิ่งขึ้น หรือ
จะผสมกับน้ำเพียงเล็กน้อยหรือครีมบำรุงผิวทาหน้า นำมาพอกหน้า ทิ้งไว้สักพักแล้วค่อยล้างออก
**คอลลาเจนที่ผสมน้ำถ้าใช้ไม่หมด นำมาแช่ตู่เย็น เพราะไม่ได้ใส่สารกันเสีย**
คำเตือน
คนแพ้อาหารทะเล ไม่ควรรับประทานคะ เพราะ สกัดจากปลาทะเลน้ำลึก
คำถาม-คำตอบ สารพันปัญหาคอลลาเจน
คำถาม: คอลลาเจนจำกัดอายุผู้ทานหรือไม่ มีข้อจำกัดอะไรบ้างสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว
ตอบ: เนื่องจากวัยเด็กร่างกายสามารถสร้างคอลลาเจนได้เอง แต่เมื่ออายุถึง 20 ปี การสร้างคอลลาเจนจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ ทำให้ผิวพรรณเริ่มมีริ้วรอยและเหี่ยวย่น ความหนาแน่นของกระดูกจะค่อยๆ บางลง รวมถึงผมที่เสื่อมสภาพลงตามอายุที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆสามารถรับประทานได้ ตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงผู้สูงอายุ มีข้อจำกัดในการรับประทานเฉพาะผู้ที่แพ้อาหารทะเลไม่ควรรับประทาน ทั้งนี้ในผู้สูงอายุ คอลลาเจนจะช่วยบำรุงข้อต่อ และกระดูกอ่อน และลดการสูญเสียแคลเซียม อันเป็นสาเหตุของโรคกระดูกพรุน
คำถาม: ควรรับประทานคอลลาเจนช่วงไหนจึงจะเห็นผลที่สุด
ตอบ: การรับประทานคอลลาเจนไม่มีสูตรรับประทานตายตัว สามารถทานก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ แต่ควรได้รับคอลลาเจนในปริมาณ 3-5 กรัมต่อวัน หรือประมาณ 2-3 ช้อนชา และควรทานตามเวลาเดิม เช่นหากเคยทานตอนเช้า ก็ให้ทานตอนเช้าทุกวัน สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนัก หรืออยู่ในช่วงลดน้ำหนัก แนะนำให้รับประทานมื้อเช้า หรือเที่ยง หลีกเลี่ยงมื้อเย็นและก่อนนอนคะ
คำถาม: การเก็บรักษาคอลลาเจน ควรเก็บในอุณหภูมิที่เท่าไหร่ จำเป็นต้องเก็บในตู้เย็นตลอดหรือไม่ และจะทราบได้อย่างไรว่าคอลลาเจนที่ใช้เสื่อมสภาพ
คำตอบ: คอลลาเจนสามารถเก็บรักษาได้ในอุณหภูมิปกติ (อุณหภูมิห้อง) แต่ห้ามถูกความร้อน ที่มีความชื้น เช่นในตู้เย็น หรือที่ๆ มีแดดส่องโดยตรง และเก็บในที่แห้ง
คอลลาเจนที่เสื่อมสภาพ สามารถสังเกตได้จากสีของคอลลาเจน ถ้าคอลลาเจนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองๆ มากกว่าปกติ (สีเดิมคือขาวนวลออกเหลืองนิดหน่อย) แสดงว่าคอลลาเจนเสีย หรือเมื่อชิมแล้ว (ให้ชิมเพียวๆ) รสชาติจะ
เปลี่ยนไปจากเดิม รสชาติเจื่อนๆ
คำถาม: คอลลาเจนช่วยให้ผิวกระชับเต่งตึง และชลอการหย่อนยานหรือไม่
ตอบ: คอลลาเจนช่วยให้ผิวกระชับ มีความเต่งตึง ช่วยลดริ้วรอย คอลลาเจนช่วยให้ผิวอุ้มน้ำได้มากขึ้น ลดอาการผิวแห้งซึ่งเป็นบ่อเกิดของริ้วรอย นอกจากนี้การรับประทานคอลลาเจนเป็นประจำสม่ำเสมอ จะช่วยให้ผิวสร้างเส้นใยคอลลาเจนเพิ่มขึ้น
ทำให้ผิวแน่น กระชับ ริ้วรอยจางลง
คำถาม: คอลลาเจนสามารถช่วยรักษาสิวหรือไม่ ความขาว และความสูง
ตอบ: คอลลาเจนไม่ได้ช่วยรักษาสิว แต่จะช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้นและรักษารอยหลุมสิว ทั้งนี้อาจจะต้องใช้เวลากว่าการทำเลเซอร์
คอลลาเจนไม่ได้ทำให้ผิวขาว แต่จะช่วยเรื่องผิวเนียน กระชับ ผิวมีความชุ่มชื้น มีความยืดหยุ่น หรือที่มักจะเรียกอาการนี้ว่า "ผิวเด้ง"
คอ ลลาเจนไม่ได้ช่วยในเรื่องความสูงโดยตรง จะเป็นเพียงตัวกระตุ้น ทั้งนี้หากอยู่ในช่วงอายุ 15-20 ปี ทานอาหารครบ 5 หมู่ เข้านอนก่อน 4 ทุ่ม นอนหลับอย่างเพียงพอสมวัย หมั่นออกกำลังกาย ประเภทโหนบาร์ เล่นบาส และทานคอลลาเจนเสริม คอลลาเจนก็จะยิ่งช่วยเสริมให้ร่างกายมีฮอร์โมนที่สมบูรณ์ เพิ่มความสูงได้อย่างเต็มที่
ตอบ: เนื่องจากวัยเด็กร่างกายสามารถสร้างคอลลาเจนได้เอง แต่เมื่ออายุถึง 20 ปี การสร้างคอลลาเจนจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ ทำให้ผิวพรรณเริ่มมีริ้วรอยและเหี่ยวย่น ความหนาแน่นของกระดูกจะค่อยๆ บางลง รวมถึงผมที่เสื่อมสภาพลงตามอายุที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆสามารถรับประทานได้ ตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงผู้สูงอายุ มีข้อจำกัดในการรับประทานเฉพาะผู้ที่แพ้อาหารทะเลไม่ควรรับประทาน ทั้งนี้ในผู้สูงอายุ คอลลาเจนจะช่วยบำรุงข้อต่อ และกระดูกอ่อน และลดการสูญเสียแคลเซียม อันเป็นสาเหตุของโรคกระดูกพรุน
คำถาม: ควรรับประทานคอลลาเจนช่วงไหนจึงจะเห็นผลที่สุด
ตอบ: การรับประทานคอลลาเจนไม่มีสูตรรับประทานตายตัว สามารถทานก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ แต่ควรได้รับคอลลาเจนในปริมาณ 3-5 กรัมต่อวัน หรือประมาณ 2-3 ช้อนชา และควรทานตามเวลาเดิม เช่นหากเคยทานตอนเช้า ก็ให้ทานตอนเช้าทุกวัน สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนัก หรืออยู่ในช่วงลดน้ำหนัก แนะนำให้รับประทานมื้อเช้า หรือเที่ยง หลีกเลี่ยงมื้อเย็นและก่อนนอนคะ
คำถาม: การเก็บรักษาคอลลาเจน ควรเก็บในอุณหภูมิที่เท่าไหร่ จำเป็นต้องเก็บในตู้เย็นตลอดหรือไม่ และจะทราบได้อย่างไรว่าคอลลาเจนที่ใช้เสื่อมสภาพ
คำตอบ: คอลลาเจนสามารถเก็บรักษาได้ในอุณหภูมิปกติ (อุณหภูมิห้อง) แต่ห้ามถูกความร้อน ที่มีความชื้น เช่นในตู้เย็น หรือที่ๆ มีแดดส่องโดยตรง และเก็บในที่แห้ง
คอลลาเจนที่เสื่อมสภาพ สามารถสังเกตได้จากสีของคอลลาเจน ถ้าคอลลาเจนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองๆ มากกว่าปกติ (สีเดิมคือขาวนวลออกเหลืองนิดหน่อย) แสดงว่าคอลลาเจนเสีย หรือเมื่อชิมแล้ว (ให้ชิมเพียวๆ) รสชาติจะ
เปลี่ยนไปจากเดิม รสชาติเจื่อนๆ
คำถาม: คอลลาเจนช่วยให้ผิวกระชับเต่งตึง และชลอการหย่อนยานหรือไม่
ตอบ: คอลลาเจนช่วยให้ผิวกระชับ มีความเต่งตึง ช่วยลดริ้วรอย คอลลาเจนช่วยให้ผิวอุ้มน้ำได้มากขึ้น ลดอาการผิวแห้งซึ่งเป็นบ่อเกิดของริ้วรอย นอกจากนี้การรับประทานคอลลาเจนเป็นประจำสม่ำเสมอ จะช่วยให้ผิวสร้างเส้นใยคอลลาเจนเพิ่มขึ้น
ทำให้ผิวแน่น กระชับ ริ้วรอยจางลง
คำถาม: คอลลาเจนสามารถช่วยรักษาสิวหรือไม่ ความขาว และความสูง
ตอบ: คอลลาเจนไม่ได้ช่วยรักษาสิว แต่จะช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้นและรักษารอยหลุมสิว ทั้งนี้อาจจะต้องใช้เวลากว่าการทำเลเซอร์
คอลลาเจนไม่ได้ทำให้ผิวขาว แต่จะช่วยเรื่องผิวเนียน กระชับ ผิวมีความชุ่มชื้น มีความยืดหยุ่น หรือที่มักจะเรียกอาการนี้ว่า "ผิวเด้ง"
คอ ลลาเจนไม่ได้ช่วยในเรื่องความสูงโดยตรง จะเป็นเพียงตัวกระตุ้น ทั้งนี้หากอยู่ในช่วงอายุ 15-20 ปี ทานอาหารครบ 5 หมู่ เข้านอนก่อน 4 ทุ่ม นอนหลับอย่างเพียงพอสมวัย หมั่นออกกำลังกาย ประเภทโหนบาร์ เล่นบาส และทานคอลลาเจนเสริม คอลลาเจนก็จะยิ่งช่วยเสริมให้ร่างกายมีฮอร์โมนที่สมบูรณ์ เพิ่มความสูงได้อย่างเต็มที่